นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 30 มิ.ย.65 ที่ระดับ 35.24 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.17 บาทต่อดอลลาร์ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.15-35.35 บาทต่อดอลลาร์คำพูดจาก ทดลองเล่นสล็อตทุกค่ายไม่ต้องสมัคร
ทั้งนี้ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวหนักหรือถดถอย จากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันให้ผู้เล่นในตลาดยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังจากที่ ประธานเฟดได้ออกมาย้ำจุดยืนในการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐ จะชะลอตัวลงก็ตาม
สำหรับวันนี้ ตลาดจะรอติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะเงินเฟ้อ PCE โดยตลาดมองว่า เงินเฟ้อ PCE เดือนพฤษภาคม อาจเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 6.4% สอดคล้องกับรายงานเงินเฟ้อทั่วไป CPI ที่ออกมาก่อนหน้า ทำให้ตลาดยังคงมองว่า เฟดอาจมีความจำเป็นในการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนกรกฎาคมอยู่คำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต
ส่วนในฝั่งเอเชีย ตลาดมองว่า เศรษฐกิจจีนจะส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น จากอานิสงส์ของการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากทางการจีน สะท้อนผ่าน ดัชนี PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมเดือนมิถุนายนที่จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.3 จุด นอกจากนี้ ภาพกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศโดยเฉพาะในฝั่งภาคการบริการที่คึกคักมากขึ้น จะสะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการบริการ ที่จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.1 จุด เช่นกัน
ขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มผันผวนสูงต่อ กดดันโดยการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ รวมถึงแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงจากนักลงทุนต่างชาติที่อาจยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวลงหนักหรือเสี่ยงที่จะเข้าสู่สภาวะถดถอย อย่างไรก็ดี หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนออกมาดีกว่าคาดและสะท้อนถึงการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจจีนหลังการผ่อนคลาย Lockdown ก็อาจช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในฝั่งเอเชียและมีโอกาสช่วยหนุนให้สกุลเงินในฝั่งเอเชียแข็งค่าขึ้นมาได้บ้าง (correlation ระหว่างเงินบาทกับเงินหยวนจีนในช่วงนี้อยู่ที่ประมาณ 70%)
ทั้งนี้ มองว่า การแข็งค่าอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมาของเงินบาทนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการกลับมาเก็งกำไรของผู้เล่นในตลาดที่มีทั้งการทยอยขายทำกำไรฝั่ง Long USDTHB และอีกส่วนก็เริ่มกลับมา Short USDTHB ตามความคาดหวังการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ดังจะเห็นได้จากยอดซื้อบอนด์ระยะสั้นสุทธิกว่า 5.2 พันล้านบาท ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งผู้เล่นกลุ่มดังกล่าวอาจรอดูความเคลื่อนไหวของเงินบาทว่าจะแข็งค่าหลุด 35 บาทต่อดอลลาร์ หรือไม่ ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนสถานะถือครอง ทำให้มองว่า โซน 35.00 บาทต่อดอลลาร์ ยังเป็นแนวรับที่สำคัญในช่วงนี้ ส่วนแนวต้านจะอยู่ในช่วง 35.30-35.40 บาทต่อดอลลาร์
อนึ่ง ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง คงแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ ใช้ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน