นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. กล่าวว่า กกพ.เห็นชอบการคำนวณประมาณค่าเอฟที สำหรับงวดเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม 2567 ใน 3 กรณี
กรณีที่ 1 จ่ายคืนหนี้ กฟผ.ทั้งหมดในงวดเดียว 99,689 ล้านบาท จะทำให้ค่าเอฟทีเรียกเก็บรวม 165.24 สตางค์ต่อหน่วย และทำให้ค่าไฟที่เรียกเก็บเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.43 บาทต่อหน่วยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง อันดับ1
กรณีที่ 2 จ่ายคืนหนี้ กฟผ. 4 งวด งวดละ 24,922 ล้านบาท ทำให้ค่าเอฟทีเรียกเก็บรวม 55.72 สตางค์ต่อหน่วย และทำให้ค่าไฟที่เรียกเก็บเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4.34 บาทต่อหน่วย
“พีระพันธุ์” มั่นใจ ค่าไฟเดือน พ.ค.-ส.ค. ไม่สูงไปกว่าปัจจุบัน
แนวโน้มค่าไฟฟ้า พ.ค.- ส.ค. 2567 คาดยืนได้ที่ราคา 4.25 บาท/หน่วย
ส่วนกรณีที่ 3 ตรึงค่าเอฟที เท่ากับงวดปัจจุบันตามที่ กฟภ.เสนอ หรือจ่ายคืนหนี้ 7 งวด งวดละ 14,000 ล้านบาท ทำให้ค่าเอฟทีเรียกเก็บเท่าเดิมที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฐาน จะทำให้ค่าไฟเรียกเก็บเฉลี่ย 4.18 บาทต่อหน่วย ซึ่งเท่ากับงวดปัจจุบัน
เลขาธิการ กกพ. ระบุว่าแนวทางที่เหมาะสมน่าจะเป็นกรณีที่ 3 ซึ่งค่าไฟเท่ากับงวดปัจจุบัน แต่จะต้องนำทั้ง 3 กรณี ไปเปิดรับฟังความเห็น ระหว่างวันที่ 8-22 มีนาคมนี้ ก่อนจะเคาะราคาค่าไฟฟ้าที่ชัดเจนอีกครั้ง
สำหรับสถานการณ์ความต้องการก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในตลาดโลกที่ลดลง เนื่องจากผู้ซื้อ LNG รายใหญ่ เช่น จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีปริมาณสำรอง LNG เพียงพอแล้ว ทำให้ราคา LNG ในตลาดโลกและ ในตลาดเอเชียลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประมาณการต้นทุนการผลิตไฟฟ้าในรอบ พ.ค. – ส.ค. 2567 ลดลง ต่ำกว่ารอบ ม.ค. – เม.ย. 2567
กกพ. เล็งปรับค่าไฟฟ้าฐานรอบ 4 ปี คาดพุ่ง 4 บาทต่อหน่วย
นายคมกฤช บอกด้วยว่า หากดูจากราคาพลังงานในตลาดโลกทั้งราคาก๊าซฯ ที่ยังไม่นิ่ง และปริมาณก๊าซฯในอ่าวไทยยังได้ไม่ตามแผนในบางช่วง เป็นปัจจัยที่นำมาคำนวนต้นทุนค่าไฟฟ้า อาจเป็นไปได้ยากที่จะเห็นค่าไฟฟ้าเหลือ 3 บาทต่อหน่วย ในระยะยาวมีความจำเป็นที่ไทยต้องปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าฐาน จากเดิม 3.78 บาทต่อหน่วย มีโอกาสปรับขึ้นประมาณ 4 บาทต่อหน่วย จะเป็นระดับที่เหมาะสม
โดยแนวทางการปรับค่าไฟฟ้าฐานของไทยจะปรับทุก 4 ปี นอกจากดูต้นทุนพลังงาน กกพ.จะพิจารณาการลงทุนของ 3 การไฟฟ้าที่มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้สะท้อนตันทุน แต่การปรับจะเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่จะช่วยเหลือประชาชนอย่างไร
นอกจากนี้ กกพ. ยังฝากถึงผู้ใช้ไฟฟ้าช่วงหน้าร้อนขอให้ประหยัดไฟฟ้า แม้ต้นทุนไฟฟ้าจะลดลง แต่หากใช้ไฟฟ้าปริมาณมากจะยิ่งดันให้ค่าไฟฟ้าต่อเดือนสูงขึ้น เดินในช่วงที่อากาศร้อน อาจ การใช้ไฟฟ้าอาจพีคสูงขึ้นอีก หากเทียบจากวันที่ 6 พ.ค. 2566 มีการใช้ไฟฟ้าสูง 34,130 เมกะวัตต์ จากอุณหภูมิอยู่ที่ 33 องศาฯ ขณะที่วันที่ 7 มีนาคม 2567 ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 32,508 เมกะวัตต์ หากไม่มีการประหยัดไฟฟ้าอาจทำให้ กกพ. ต้องมีการประชุมด่วนเพื่อพิจารณานำเข้าก๊าซฯLNG เพิ่มขึ้นด้วย
8 มีนาคม “วันสตรีสากล” รำลึกการเรียกร้องสิทธิ ความเท่าเทียมของผู้หญิง
แฟนการ์ตูนอาลัย “โทริยามะ อากิระ” ผู้สร้าง “ดราก้อนบอล” เสียชีวิตแล้ว
ประกาศเตือนพายุฤดูร้อน ฉบับที่ 7 ฝนจ่อถล่มไทยหลายพื้นที่